Privacy Policy

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Protective Data Policy)

บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ต่อไปนี้จะรวมเรียกว่า “บริษัทฯ” และได้เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ www.megachem.co.th รวมไปถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ สื่อช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ในเครือบริษัทฯ  

บริษัทฯ จึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การคุ้มครองข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การโอนย้าย และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้

  1. คำนิยามที่เกี่ยวข้อง

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม อาทิเช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วัน เดือน ปี เกิด รูปถ่าย ข้อมูลที่ใช้ในดำเนินการทางธุรกิจ หรือสิ่งใดๆที่แสดงออกมาในรูปแบบเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือ เสียงการบันทึก โดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใด ที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฎขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินการของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีสิทธิต่างๆตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่ถูกระบุไว้ ในสิทธิของเจ้าของข้อมูลในหนังสือยินยอมฉบับนี้ เจ้าของข้อมูลประเภทต่างๆ ได้แก่ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน  ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้ ในหนังสือยินยอมฉบับนี้หมายถึง “ตัวท่าน”

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

  1. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อประโยชน์ต่อกระบวนการคัดเลือกคัดสรร การบริหารจัดการบุคลากรที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทฯ ในด้านต่างๆ อาทิ การพิจารณาการว่าจ้าง ค่าตอบแทน การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง การปรับโครงสร้างเงินเดือน ตลอดจนรายได้และสวัสดิการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่จะก่อให้เกิดสิทธิและผลประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลได้แก่ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ สมควรแก่การได้รับ
  • เพื่อประโยชน์ต่อกระบวนการ พิจารณาและตรวจสอบคำขออนุญาตในการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลของ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ เช่น ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางกระทรวงมหาดไทย ข้อมูลทะเบียนนิติบุคคลหรือข้อมูลการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางจากกระทรวงพาณิชย์ ข้อมูลทะเบียนคนต่างด้าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจากฐานข้อมูลใบอนุญาตทำงาน กระทรวงแรงงาน และอื่นๆ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
  • เพื่อการประมวลผล การบริหารจัดการการดำเนินการเกี่ยวกับการเป็นผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ หรือธุรกรรมต่างๆที่เจ้าของข้อมูล ยื่นต่อบริษัทฯ รวมถึงการพิจารณารับผลประโยชน์ตอบแทน การดำเนินการและให้บริการต่างๆที่เกี่ยวกับแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน การจัดเก็บค่าธรรมเนียมและหนี้สินอื่นๆ(ถ้ามี) การตรวจสอบ การวิเคราะห์ การประมวลผล การจ่ายเงินตามแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน รวมถึงการต่ออายุการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การยกเลิกสถานภาพ และการยื่นคำร้องต่างๆที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ หรือ เครือข่ายสายงานของเจ้าของข้อมูล
  • เพื่อดำเนินการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงช่วยให้บริษัทสามารถ ปฎิบัติตามภาระผูกพันที่บริษัทฯ มีต่อเจ้าของข้อมูลและส่งมอบบริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตามที่ได้ประกาศหรือตกลงไว้กับเจ้าของข้อมูลที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกรรมอื่นๆ
  • เพื่อใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ เสนอให้ ใช้ หรือปรับปรุงบริการ รายการส่งเสริมการขายหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เพื่อปฎิบัติตามข้อบังคับหรือข้อกำหนดอื่นๆตามกฎหมาย เพื่อดำเนินการสอบทาน ตรวจสอบ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลของผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ ที่ได้รับจากหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ เช่น โรงพยาบาล หน่วยงานทางการแพทย์ หรือหน่วยงานต่างๆ
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการหลังการขายแก่ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ รวมถึงการให้บริการติดตาม ประสานงาน แก้ไขปัญหาแก่เจ้าของข้อมูลตามความเหมาะสม เช่น บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือ การตอบข้อสงสัย ข้อซักถาม เป็นต้น
  • เพื่อการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเจ้าของข้อมูลตามที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น
  1. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 2 ผู้อนุญาตตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะไม่สามารถพิจารณาคำขออนุญาตได้
  2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลจากเจ้าของโดยตรง

  • ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลด้านการเงินที่ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ ได้ให้ไว้ขณะที่ขอสมัครงาน สมัครสมาชิก การทำธุรกรรมต่างๆ หรือภายหลัง โดยให้ข้อมูลในใบสมัครงาน ใบสมัครสมาชิก ตลอดจนเอกสารการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงเอกสารประกอบและข้อมูล การสื่อสารต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำ เนาทะเบียนบ้าน คำร้องต่างๆ ฯลฯ ที่เจ้าของข้อมูลได้มอบให้บริษัทฯ หรือตัวแทนจำหน่าย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ในรูปแบบหนงัสือ หรือวิธีการทางอิเลคทรอนิกส์
  • ข้อมูลส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลที่ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ ให้ไว้ในการติดต่อสื่อสารทางอิเลคทรอนิกส์ หรือกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น กิจกรรมงานเลี้ยง กิจกรรมมอบรางวัลต่างๆ เป็นต้น

ข้อมูลจากแหล่งอื่น

  • ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ
  • ข้อมูลจากเว็บไซต์ (เช่นเว็บไซต์ทาง Social media)
  • ข้อมูลที่ไดรับจากบริษัทในเครือกิจการ หรือเครือธุรกิจเดียวกัน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลที่ลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมรดก ผู้ซื้อสินค้าและบริการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทางธุรกรรมต่างๆ กับบริษัทฯ เช่น การเรียกร้องจากคำร้อง ต่างๆ เป็นต้น
  • ข้อมูลอื่นๆ ที่จัดเก็บโดยเทคโนโลยีการสื่อสาร บริษัทฯ อาจใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานของเจ้าของข้อมูล ได้แก่ ผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน และอื่นๆ แต่เจ้าของข้อมูลสามารถปฏิเสธหรือปิดกั้นการติดตั้งการใช้งานได้โดยตั้งค่าในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารที่ใช้งาน แต่โปรดตระหนักว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือใช้งานได้อย่างจำกัด
  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะจัดเก็บไว้ตลอดอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แต่ไม่เกิน 365 วัน นับตั้งแต่ใบอนุญาตประกอบกิจการสิ้นอายุ ผู้รับอนุญาตแจ้งเลิกกิจการ หรือผู้อนุญาตมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต บริษัทจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ฝึกงาน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ อดีตพนักงาน ผู้แทนจำหน่าย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมรดก หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้อง เกินกว่าระยะเวลาที่บริษัทเห็นว่า จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้จัดเก็บ ยกเว้นกรณีที่ กฎหมายกำหนด ให้เก็บข้อมูลดังกล่าวในระยะเวลาที่นานกว่านั้น
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ การเปิดเผยข้อมูลจะกระทำเพื่อวัตถุประสงค์ตามข้อ 2 ข้างต้น หรือตามหมายเรียก คำสั่งของศาล หรือคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกัน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมรดก หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหแก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวขอ้ง
  3. การส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ อาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยไปยังต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องมีมาตราฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
  4. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้

8.1 ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้โดยจะต้องถอนความยินยอมได้ง่ายเช่นเดียวกับการให้ความยินยอม เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอม ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบตามที่กำหนดไว้

8.2 ขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอมได้

8.3 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูล ส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

8.4 คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย

8.5 ขอให้ทำลายหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

8.6 ขอให้ดำเนินการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

8.7 แจ้งให้ดำเนินการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

8.8 มีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. ผลการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้บริษัทฯทราบ และบริษัทฯอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยขอ้มูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะทำการเพิกถอนความยินยอม ให้บริษัทฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับผลประโยชน์ตอบแทนตามแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือการให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับแผนการจ่าย และส่งผลให้บริษัทฯไม่สามารถปฎิบัติตามสัญญาได้

10.อื่นๆ

  • หนังสือให้ความยินยอมฉบับนี้ อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายไทย
  • บริษัทฯ มีสิทธิในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่บริษัทฯเห็นสมควร โดยที่ท่านสามารถตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับบล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ
  1. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อ ได้ที่

11.1 บริษัทเมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 25 ซอย ฉลองกรุง 31 นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซ.G1/9, แขวงลำปลาทิว

เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

11.2 ช่องทางอื่นๆ

โทรศัพท์: 0 2739 6333 , 02 114 7606

โทรสาร: 0 2739 6332

อีเมล: paspaporn@megachem.co.th

เว็บไซต์: www.megachem.co.th

เมื่อท่านตกลงยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯ จะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใดๆ ของบริษัทฯ โดยจะถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ทุกประการ

Our location

Megachem (Thailand) PCL 25 Soi chalongkrung 31, Ladkrabang Industrial Estate Soi G1/9 Lamplathew Lat Krabang, Bangkok 10520

Phone : +66 2739 6333 ,

+66 2739 6308-13

+66 2114 7606

Mobile : 0819264028

Fax : +66 2739 6332

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว, ประกาศความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก